Showing 3590 results

Archival description
Print preview View:

3207 results with digital objects Show results with digital objects

เพลง ความรักครวญหา (Love Lament)

เพลงความรักครวญหา เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับบรรเลงในละครเรื่องต่างๆ เดิมเรียบเรียงเสียงประสานไว้สำหรับวงดุริยางค์เล็กขนาด 14 ชิ้น และได้รับการขยายและเรียบเรียงเสียงประสานใหม่สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีโดย Mr. John Georgiadis ผู้อำนวยเพลงของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ

Love Lament comprised from portions of songs originally written for several theatrical plays, these works were first arranged by Prasidh for a stage orchestra limmited to fourteen instruments. Seeking to enlarge the composition, Mr. John Georgiadis, musical director and principal conductor of the Bangkok Symphony Orchestra, has rearranged the works to allow performance by the symphony orchestra. This masterful treatment has allowed the various melodies of the individual pieces to be appreciated in a continuous thread of compositional ingenuity.

เพลง กลางสายชล (In the Middle of a Stream)

เพลงกลางสายชล เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับบรรเลงในละครเรื่องต่างๆ เดิมเรียบเรียงเสียงประสานไว้สำหรับวงดุริยางค์เล็กขนาด 14 ชิ้น และได้รับการขยายและเรียบเรียงเสียงประสานใหม่สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีโดย Mr. John Georgiadis ผู้อำนวยเพลงของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ

In the Middle of a Stream comprised from portions of songs originally written for several theatrical plays, these works were first arranged by Prasidh for a stage orchestra limmited to fourteen instruments. Seeking to enlarge the composition, Mr. John Georgiadis, musical director and principal conductor of the Bangkok Symphony Orchestra, has rearranged the works to allow performance by the symphony orchestra. This masterful treatment has allowed the various melodies of the individual pieces to be appreciated in a continuous thread of compositional ingenuity.

เพลง ยามสิ้นแสงตะวัน (Moment of Sunset)

เพลงยามสิ้นแสงตะวัน เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับบรรเลงในละครเรื่องต่างๆ เดิมเรียบเรียงเสียงประสานไว้สำหรับวงดุริยางค์เล็กขนาด 14 ชิ้น และได้รับการขยายและเรียบเรียงเสียงประสานใหม่สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีโดย Mr. John Georgiadis ผู้อำนวยเพลงของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ

Moment of Sunset comprised from portions of songs originally written for several theatrical plays, these works were first arranged by Prasidh for a stage orchestra limmited to fourteen instruments. Seeking to enlarge the composition, Mr. John Georgiadis, musical director and principal conductor of the Bangkok Symphony Orchestra, has rearranged the works to allow performance by the symphony orchestra. This masterful treatment has allowed the various melodies of the individual pieces to be appreciated in a continuous thread of compositional ingenuity.

อัลบั้มเชิดใน (Cherd Nai Album)

บทเพลงเทิดพระเกียรติ “เชิดใน” หรือ “The Prelude of Siam” ได้รับการบันทึกเสียงโดยจัดทำเป็น CD เมื่อเดือน มิถุนายน 2547 ร่วมกับเพลงอื่นๆ ที่รวบรวมจากละครเรื่องต่างๆ ที่ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ประพันธ์ไว้ การบันทึกเสียงกระทำที่เมือง RIGA ประเทศ LATVIA บรรเลงโดยนักดนตรีชาวลัตเวีย ด้วยวง The Latvian National Symphony Orchestra และ Mr.Terje Mikkelsen ชาวนอร์เวย์ เป็นวาทยกร

ผู้อำนวยเพลง : Terje Mikkelsen
วงดุริยางค์ : The Latvian National Symphony Orchestra
ผู้บันทึกเสียงและผสมเสียง : Karlis Pinnis และ Vilnis Kaksis
ผู้ขับร้อง: ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ
สถานที่บันทึกเสียง : Riga Recording Studio, เมืองริก้า ประเทศลัตเวีย
ผู้อำนวยการผลิต : ดร.กุลธร ศิลปบรรเลง บุตรของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และหลานของหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
ผู้ประสานงาน : อรปรียา ศิลปบรรเลง และยศธร ศิลปบรรเลง
ผู้มีส่วนร่วม : ลัดดา ศิลปบรรเลง, ยาหยีศรีเฉลิม ศิลปบรรเลง, วัลย์ลดา หงส์ทอง, มธุสร วิสุทธกุล, อัปสร กูรมะโรหิต, ไกวัล กุลวัฒโนทัย, ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ, Bjorn and Hazel Henriksen

This recording took place in June 2004 at the Riga Recording studio, Riga, Latvia.

The Latvian National Symphony Orchestra conducted by Terje Mikkelsen
Vocalist Jairat Pitakchroen.
Recorded and engineered by Kalis Pinnis, Vilnis Kaksis
Excutive Producer: Dr.Kulthorn Silapabanleng (Son of Prasidh Silapabanlenf and Grandson of Luang Praditpairoh)
Coordiantors: Orpriya Silapabanleng, Yosathorn Silapabanleng
Thanks to: Ladda Silapabanleng, Yahysrichalerm Silapabanleng, Valyalada Hongstong, Mathurose Visuthakul, Apsorn Kurmarohita, Kaiwal Kulwathanothai, Jairat Pitakchroen, Bjorn and Hazel Henrikson

เพลง เชิดใน (Cherd Nai : The Prelude of Siam)

ผู้ประพันธ์ (จากทำนองเพลงไทยเดิม) : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสานสำหรับวงซิมโฟนี : Mr. John Georgiadis

ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ 72 พรรษา ผู้ประพันธ์มีความปรารถนาที่จะประพันธ์เพลงเทิดพระเกียรติ จึงได้คัดทำนองเพลงไทยเดิม ชื่อ "เชิดใน" ซึ่งประพันธ์โดยบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) มาเป็นโครงสร้างของบทประพันธ์ เพราะมีความเหมาะสมที่จะใช้บรรเลงในลักษณะเพลงโหมโรง (Overture)

เพลง "เชิดใน" ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักดนตรีไทยเดิมเหมือนกับเพลง "เชิดนอก" ที่เล่นกันแพร่หลายและเป็นเพลงเอกในภาพยนตร์เรื่อง "โหมโรง" แต่ก็เป็นเพลงบรรเลงที่มีความเร็วและเหมาะสมกับการที่จะใช้เป็นเพลงโหมโรง อาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้ประพันธ์เป็น Piano Conductor Score เสร็จ แต่ไม่สามารถเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับวงซิมโฟนีให้เสร็จได้ เพราะความเจ็บป่วยในช่วงสุดท้ายของชีวิต จึงได้มอบให้ Mr. John Georgiadis เป็นผู้เรียบเรียงเสียงประสานแทน เพราะเป็นผู้มีความคุ้นเคยกับบทประพันธ์อื่นๆ ของท่านมาก่อนแล้ว

"เชิดใน" ได้รับการประพันธ์ และเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับวงซิมโฟนีขนาดใหญ่ เป็นบทเพลงที่มีความสง่างาม และจบด้วยท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นเพลงไทยอย่างชัดเจน

"เชิดใน" ได้รับการบันทึกเสียงครั้งแรกพร้อมกับเพลงอื่นๆ ของ อาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ที่เมืองริก้า ประเทศลัตเวีย เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 บรรเลงโดยวงดนตรี The Latvian National Symphony Orchestra ใช้นักดนตรีรวมทั้งสิ้น 70 คน และ Mr. Terje Mikkelsen ชาวนอร์เวย์ เป็นวาทยกร


Cherd Nai : The Prelude of Siam
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by John Georgiadis

In this work the composer has re-composed the original theme of “Cherd Nai” created by his father Luang Praditpairoh (Sorn Silapabanleng) as a Western style Overture. The piano-conductor score and was completed when the composer was 87 and in poor health. Hence, the score and suggestions for arrangement were forwarded to Mr.John Georgiadis, conductor of the composer’s famed “Siang Tian with female chorus”, in the U.K. to enlarge and orchestrate the piece for performance by a medium-sized symphony orchestra.

“Cherd Nai: The Prelude of Siam” was first recorded in Riga, Latvia on June 2004, with the Norwegian conductor Terje Mikkelsen conducting the Latvian National Symphony Orchestra. The “Cherd Nai” has been orchestrated in the grand symphonic orchestral style with distinctive melodies of traditional Thai themes in the opening and grand finale.

ไซมีสโรม้านซ์ (Siamese Romances) เพลง จันทราพาฝัน

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และ อัปสร กูรมะโรหิต

ไซมีสโรม้านซ์ได้ประพันธ์ขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชร่วมกันจัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลางชิ้นนี้ได้เรียบเรียงมาจากเพลงรัอง และเพลงบรรเลงสำหรับละครเรื่องต่างๆ ที่แสดงโดยคณะผกาวลี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และลูกศิษย์ คือ อัปสร กูรมะโรหิต ได้ร่วมกันจัดทำเป็นบทประพันธ์ในลักษณะเพลงประสม (Medley) รวม ๕ กระบวนด้วยกัน โดยนำมาจากบทเพลงในละครเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กระบวนที่ ๑ จันทราพาฝัน (๓.๐๙ นาที) จากภาพยนตร์เรื่อง ไฟชีวิต (บทภาพยนตร์ของ สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๒ โลมเหนือ (๓.๕๖ นาที) เรียบเรียงเสียงประสานจากทำนองเพลงไทยเดิมของท่านบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • กระบวนที่ ๓ งามเพียงจันทร์ (๓.๐๐ นาที) จากละครเรื่อง ธิดาจ้าวราชบุตร (บทละครของ อบ ไชยวสุ) โดยนำส่วนหนึ่งของทำนองเพลงที่แต่งโดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ชื่อ "เพลงโลมพม่า” มาเรียบเรียงเสียงประสาน ปรับปรุงเป็นเพลงบรรเลงสำหรับวงดุริยางค์ในจังหวะวอลซ์
  • กระบวนที่ ๔ รักแท้ (๓.๓๙ นาที) จากละครเรื่อง เงาะป่า (พระราชนิพนธ์อัญเชิญมาทำบทละครเวที โดย สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๕ แรพโซดี (Rhapsody) (๕.๑๓ นาที) จากการผสมผสานของ ๒ บทเพลง คือ "เพลงดวงใจ" จากละครเรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า (บทละครของมาลัย ชูพินิจ) และ "เพลงยามรัก" จากละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครของ สด กูรมะโรหิต)

Siamese Romance: Dramatic Suite for Orchestra
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng and Apsorn Kurmarohita

The composer and his last student, Apsorn, completed this orchestration in the form of a suite for orchestra in October 1998. It is comprised of 5 short movements, which have been taken from Prasidh’s small compositions for theatrical plays, namely

  • 1st movement: Chandra pa Fun
  • 2nd movement: Lome nua
  • 3rd movement: Ngarm Pieng Chand
  • 4th movement: Ruk Tae
  • 5th movement: Rhapsody

ไซมีสโรม้านซ์ (Siamese Romances) เพลง โลมเหนือ

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และ อัปสร กูรมะโรหิต

ไซมีสโรม้านซ์ได้ประพันธ์ขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชร่วมกันจัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลางชิ้นนี้ได้เรียบเรียงมาจากเพลงรัอง และเพลงบรรเลงสำหรับละครเรื่องต่างๆ ที่แสดงโดยคณะผกาวลี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และลูกศิษย์ คือ อัปสร กูรมะโรหิต ได้ร่วมกันจัดทำเป็นบทประพันธ์ในลักษณะเพลงประสม (Medley) รวม ๕ กระบวนด้วยกัน โดยนำมาจากบทเพลงในละครเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กระบวนที่ ๑ จันทราพาฝัน (๓.๐๙ นาที) จากภาพยนตร์เรื่อง ไฟชีวิต (บทภาพยนตร์ของ สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๒ โลมเหนือ (๓.๕๖ นาที) เรียบเรียงเสียงประสานจากทำนองเพลงไทยเดิมของท่านบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • กระบวนที่ ๓ งามเพียงจันทร์ (๓.๐๐ นาที) จากละครเรื่อง ธิดาจ้าวราชบุตร (บทละครของ อบ ไชยวสุ) โดยนำส่วนหนึ่งของทำนองเพลงที่แต่งโดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ชื่อ "เพลงโลมพม่า” มาเรียบเรียงเสียงประสาน ปรับปรุงเป็นเพลงบรรเลงสำหรับวงดุริยางค์ในจังหวะวอลซ์
  • กระบวนที่ ๔ รักแท้ (๓.๓๙ นาที) จากละครเรื่อง เงาะป่า (พระราชนิพนธ์อัญเชิญมาทำบทละครเวที โดย สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๕ แรพโซดี (Rhapsody) (๕.๑๓ นาที) จากการผสมผสานของ ๒ บทเพลง คือ "เพลงดวงใจ" จากละครเรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า (บทละครของมาลัย ชูพินิจ) และ "เพลงยามรัก" จากละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครของ สด กูรมะโรหิต)

Siamese Romance: Dramatic Suite for Orchestra
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng and Apsorn Kurmarohita

The composer and his last student, Apsorn, completed this orchestration in the form of a suite for orchestra in October 1998. It is comprised of 5 short movements, which have been taken from Prasidh’s small compositions for theatrical plays, namely

  • 1st movement: Chandra pa Fun
  • 2nd movement: Lome nua
  • 3rd movement: Ngarm Pieng Chand
  • 4th movement: Ruk Tae
  • 5th movement: Rhapsody

ไซมีสโรม้านซ์ (Siamese Romances) เพลง งามเพียงจันทร์

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และ อัปสร กูรมะโรหิต

ไซมีสโรม้านซ์ได้ประพันธ์ขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชร่วมกันจัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลางชิ้นนี้ได้เรียบเรียงมาจากเพลงรัอง และเพลงบรรเลงสำหรับละครเรื่องต่างๆ ที่แสดงโดยคณะผกาวลี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และลูกศิษย์ คือ อัปสร กูรมะโรหิต ได้ร่วมกันจัดทำเป็นบทประพันธ์ในลักษณะเพลงประสม (Medley) รวม ๕ กระบวนด้วยกัน โดยนำมาจากบทเพลงในละครเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กระบวนที่ ๑ จันทราพาฝัน (๓.๐๙ นาที) จากภาพยนตร์เรื่อง ไฟชีวิต (บทภาพยนตร์ของ สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๒ โลมเหนือ (๓.๕๖ นาที) เรียบเรียงเสียงประสานจากทำนองเพลงไทยเดิมของท่านบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • กระบวนที่ ๓ งามเพียงจันทร์ (๓.๐๐ นาที) จากละครเรื่อง ธิดาจ้าวราชบุตร (บทละครของ อบ ไชยวสุ) โดยนำส่วนหนึ่งของทำนองเพลงที่แต่งโดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ชื่อ "เพลงโลมพม่า” มาเรียบเรียงเสียงประสาน ปรับปรุงเป็นเพลงบรรเลงสำหรับวงดุริยางค์ในจังหวะวอลซ์
  • กระบวนที่ ๔ รักแท้ (๓.๓๙ นาที) จากละครเรื่อง เงาะป่า (พระราชนิพนธ์อัญเชิญมาทำบทละครเวที โดย สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๕ แรพโซดี (Rhapsody) (๕.๑๓ นาที) จากการผสมผสานของ ๒ บทเพลง คือ "เพลงดวงใจ" จากละครเรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า (บทละครของมาลัย ชูพินิจ) และ "เพลงยามรัก" จากละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครของ สด กูรมะโรหิต)

Siamese Romance: Dramatic Suite for Orchestra
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng and Apsorn Kurmarohita

The composer and his last student, Apsorn, completed this orchestration in the form of a suite for orchestra in October 1998. It is comprised of 5 short movements, which have been taken from Prasidh’s small compositions for theatrical plays, namely

  • 1st movement: Chandra pa Fun
  • 2nd movement: Lome nua
  • 3rd movement: Ngarm Pieng Chand
  • 4th movement: Ruk Tae
  • 5th movement: Rhapsody

ไซมีสโรม้านซ์ (Siamese Romances) เพลง รักแท้

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และ อัปสร กูรมะโรหิต

ไซมีสโรม้านซ์ได้ประพันธ์ขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชร่วมกันจัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลางชิ้นนี้ได้เรียบเรียงมาจากเพลงรัอง และเพลงบรรเลงสำหรับละครเรื่องต่างๆ ที่แสดงโดยคณะผกาวลี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และลูกศิษย์ คือ อัปสร กูรมะโรหิต ได้ร่วมกันจัดทำเป็นบทประพันธ์ในลักษณะเพลงประสม (Medley) รวม ๕ กระบวนด้วยกัน โดยนำมาจากบทเพลงในละครเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กระบวนที่ ๑ จันทราพาฝัน (๓.๐๙ นาที) จากภาพยนตร์เรื่อง ไฟชีวิต (บทภาพยนตร์ของ สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๒ โลมเหนือ (๓.๕๖ นาที) เรียบเรียงเสียงประสานจากทำนองเพลงไทยเดิมของท่านบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • กระบวนที่ ๓ งามเพียงจันทร์ (๓.๐๐ นาที) จากละครเรื่อง ธิดาจ้าวราชบุตร (บทละครของ อบ ไชยวสุ) โดยนำส่วนหนึ่งของทำนองเพลงที่แต่งโดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ชื่อ "เพลงโลมพม่า” มาเรียบเรียงเสียงประสาน ปรับปรุงเป็นเพลงบรรเลงสำหรับวงดุริยางค์ในจังหวะวอลซ์
  • กระบวนที่ ๔ รักแท้ (๓.๓๙ นาที) จากละครเรื่อง เงาะป่า (พระราชนิพนธ์อัญเชิญมาทำบทละครเวที โดย สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๕ แรพโซดี (Rhapsody) (๕.๑๓ นาที) จากการผสมผสานของ ๒ บทเพลง คือ "เพลงดวงใจ" จากละครเรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า (บทละครของมาลัย ชูพินิจ) และ "เพลงยามรัก" จากละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครของ สด กูรมะโรหิต)

Siamese Romance: Dramatic Suite for Orchestra
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng and Apsorn Kurmarohita

The composer and his last student, Apsorn, completed this orchestration in the form of a suite for orchestra in October 1998. It is comprised of 5 short movements, which have been taken from Prasidh’s small compositions for theatrical plays, namely

  • 1st movement: Chandra pa Fun
  • 2nd movement: Lome nua
  • 3rd movement: Ngarm Pieng Chand
  • 4th movement: Ruk Tae
  • 5th movement: Rhapsody

ไซมีสโรม้านซ์ (Siamese Romances) เพลง แรพโซดี

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และ อัปสร กูรมะโรหิต

ไซมีสโรม้านซ์ได้ประพันธ์ขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชร่วมกันจัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระราชพิธีมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ บทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลางชิ้นนี้ได้เรียบเรียงมาจากเพลงรัอง และเพลงบรรเลงสำหรับละครเรื่องต่างๆ ที่แสดงโดยคณะผกาวลี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ โดย ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และลูกศิษย์ คือ อัปสร กูรมะโรหิต ได้ร่วมกันจัดทำเป็นบทประพันธ์ในลักษณะเพลงประสม (Medley) รวม ๕ กระบวนด้วยกัน โดยนำมาจากบทเพลงในละครเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กระบวนที่ ๑ จันทราพาฝัน (๓.๐๙ นาที) จากภาพยนตร์เรื่อง ไฟชีวิต (บทภาพยนตร์ของ สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๒ โลมเหนือ (๓.๕๖ นาที) เรียบเรียงเสียงประสานจากทำนองเพลงไทยเดิมของท่านบิดา คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • กระบวนที่ ๓ งามเพียงจันทร์ (๓.๐๐ นาที) จากละครเรื่อง ธิดาจ้าวราชบุตร (บทละครของ อบ ไชยวสุ) โดยนำส่วนหนึ่งของทำนองเพลงที่แต่งโดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ชื่อ "เพลงโลมพม่า” มาเรียบเรียงเสียงประสาน ปรับปรุงเป็นเพลงบรรเลงสำหรับวงดุริยางค์ในจังหวะวอลซ์
  • กระบวนที่ ๔ รักแท้ (๓.๓๙ นาที) จากละครเรื่อง เงาะป่า (พระราชนิพนธ์อัญเชิญมาทำบทละครเวที โดย สด กูรมะโรหิต)
  • กระบวนที่ ๕ แรพโซดี (Rhapsody) (๕.๑๓ นาที) จากการผสมผสานของ ๒ บทเพลง คือ "เพลงดวงใจ" จากละครเรื่อง เกียรติศักดิ์รักของข้า (บทละครของมาลัย ชูพินิจ) และ "เพลงยามรัก" จากละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครของ สด กูรมะโรหิต)

Siamese Romance: Dramatic Suite for Orchestra
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng and Apsorn Kurmarohita

The composer and his last student, Apsorn, completed this orchestration in the form of a suite for orchestra in October 1998. It is comprised of 5 short movements, which have been taken from Prasidh’s small compositions for theatrical plays, namely

  • 1st movement: Chandra pa Fun
  • 2nd movement: Lome nua
  • 3rd movement: Ngarm Pieng Chand
  • 4th movement: Ruk Tae
  • 5th movement: Rhapsody

เพลง โศกพม่า (Soke Pama)

ผู้ประพันธ์ (จากทำนองเพลงไทยเดิม) : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง

เป็นที่เข้าใจกันว่า หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ผู้เป็นบิดาได้ประพันธ์ไว้ในลักษณะเพลงไทยเดิม แต่ไม่มีการนำมาเล่นอย่างแพร่หลายเหมือนกับเพลงไทยอื่นๆ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้นำมาประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานขึ้นใหม่สำหรับวงดุริยางค์ซิมโฟนีขนาดกลาง และเข้าใจว่า ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้ประพันธ์ไว้ในช่วงปลายอายุ ๓๐ ปี และเก็บไว้จนลืม เพราะไม่มีผู้ใดรวมทั้งผู้ประพันธ์ กล่าวถึงบทเพลงบรรเลงอันไพเราะชิ้นนี้เลย แม้ในช่วงเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่

เมื่อจะเตรียมการสำหรับงานอัดเสียงบทประพันธ์เพลงของท่านที่ประเทศลัตเวีย ดร. กุลธร ศิลปบรรเลง บุตรชาย ได้ค้นพบบทประพันธ์นี้โดยบังเอิญ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ทั้ง Score และ Parts ผลที่ได้ก็คือเป็น "เพลงโศกพม่า" ที่ไพเราะ แสดงออกถึงอารมณ์โศกเศร้าอย่างละเอียดอ่อนผสมผสานกับความอ่อนหวานซาบซึ้ง


Soke Pama
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng

It is understood that Luang Praditpairoh (Sorn Silapabanleng) composed this song in the traditional Thai version for a theatrical play. The melody expresses solitude and sorrow and Prasidh, the composer and son, in his orchestration of the Soke Pama, has utilized all his father’s motifs to the full.

เพลง ดำเนินทราย ขับร้องเดี่ยว (Damnern Sigh with Voice)

ผู้ประพันธ์ (จากทำนองเพลงไทยเดิม) : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : อัปสร กูรมะโรหิต
ผู้ประพันธ์คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ

เมื่อแรกนั้น อาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้ประพันธ์ขึ้นจากเพลงไทยเดิม ทางเปลี่ยน ของท่านบิดา (หลวงประดิษฐ์ไพเราะ) สำหรับการแสดงละครของคณะผกาวลี เรื่อง "เวียงฟ้า" (บทละครโดย "อิงอร" หรือ ศักดิ์เกษม หุตาคม) สำหรับขับร้องคู่ชาย-หญิง โดยจำกัดเครื่องดนตรีไว้ ๑๔ ชิ้น หลังจากนั้น ก็นำมาเขียนเป็นบทเพลงในลักษณะเล่นโดยเครื่องสาย ๔ ชิ้น (String Quartet) และต่อมาได้ดัดแปลงให้เป็นเพลงบรรเลงโดยใช้ส่วนของเครื่องสายทั้งหมด (String Section) ของวงดุริยางค์ซิมโฟนี ดังปรากฏในตัวอัลบั้มเพลง "เสี่ยงเทียน" ที่ผลิตในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ อัปสร กูรมะโรหิต ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านได้นำมาเรียบเรียงขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ภายใต้การแนะนำของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง โดยใช้ผลงานบางส่วนของ String Quartet ของท่านเพื่อการประพันธ์ให้เป็นเพลงสำหรับวงซิมโฟนีทั้งวง และมีการขับร้องเดี่ยวโซปราโนอยู่ด้วย

คุณลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง ภริยาของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง เป็นผู้ให้คำร้อง โดยตั้งใจทำเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ


Damnern Sigh with voice
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Apsorn Kurmarohita
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng
Vocalist : Jairat Pitakcharoen

Originally written for a string quartet, this work was Prasidh’s orchestration of the traditional Thai version composed by his father, the famed Luang Praditpairoh (Sorn Silapabanleng). In subsequent compositions, it was performed by the entire string section of the symphony orchestra, which lent full-bodied sound to the piece.

Apsorn Kurmarohita, the fond pupil and one of Prasidh’s last students of composition, sought to rearrange and extend the piece, basing it partly on Prasidh’s string quartet work, to include a voice in this new version of Damnern Sigh. Ladda Saratayon Silapabanleng, the wife of Prasidh was asked to compose the lyrics to honour our great King Bhumiphol’s wisdom, insight and inspiration.

เพลง เสี่ยงเทียน ขับร้องเดี่ยว (Siang Tian with voice)

ผู้ประพันธ์ (จากทำนองเพลงไทยเดิม) : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้ประพันธ์คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ

เพลงเสี่ยงเทียนได้รับการประพันธ์ไว้หลายรูปแบบโดยประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ผู้ซึ่งมีความชื่นชมและยกย่องบทเพลงไทยเดิมบทนี้ของหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ผู้เป็นบิดาเป็นอย่างมาก

หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้ประพันธ์ขึ้นจากเพลงเก่าชื่อ "ลาวเสี่ยงเทียน" ซึ่งเดิมอยู่ในจังหวะสองชั้น ขยายชั้นให้เป็นสามชั้นแล้วชั้นเดียว จนครบลักษณะเถา และเป็นเพลงที่นิยมเล่นกันมากสำหรับนักดนตรี

ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้นำท่อนหนึ่งของ "ทางเปลี่ยน" ของท่านบิดามาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่สำหรับบรรเลงด้วยดนตรีสากลเป็นครั้งแรกให้กับคณะละครผกาวลี สำหรับการแสดงละครเรื่อง "ธิดาจ้าวราชบุตร" (บทละครโดย อบ ไชยวสุ) ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๒ โดยใช้เครื่องดนตรี ๑๔ ชิ้น และขับร้องโดยนักร้องชาย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ขณะเมื่ออายุหกสิบปีเศษ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้ประพันธ์เพลงนี้ไว้ในอีกรูปแบบหนึ่ง คือ แบบ String Quartet และในที่สุดเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๒ เมื่อมีอายุได้ประมาณ ๗๗ ปี จึงได้นำเพลงเสี่ยงเทียนมาขยายในรูปแบบ Symphonic Poem ที่มีความสง่างามประสานกับความอ่อนหวานซาบซึ้งสำหรับหมู่นักร้องโซปราโนและอัลโต ร่วมกับวงดุริยางค์ซิมโฟนี

สำหรับเพลงเสี่ยงเทียน ขับร้องเดี่ยว ในอัลบั้มนี้ คือ ผลงานประพันธ์ครั้งแรกสำหรับละคร แต่ได้เปลี่ยนเนื้อร้องให้เหมาะสมกับนักร้องหญิงที่ขับร้องเดี่ยวครั้งนี้ และบรรเลงโดยวงดุริยางค์ซิมโฟนีทั้งวงจากที่เคยจำกัดจำนวนนักดนตรีไว้เดิมเพียง ๑๔ คน


Siang Tian with Voice
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng
Vocalist : Jairat Pitakcharoen

The piece was first composed by Luang Praditpairoh (Sorn Silapabanleng) in the traditional Thai style renowned for its graceful and romantic expression. Prasidh had chosen this theme to compose the first version of Siang Tian with voice for one of his theatrical compositions. This is the version recorded in the present album with Terje Mikkelsen conducting the Latvian National Symphony Orchestra.

The second version was written in a string quartet format. Prasidh extended the scope of the work when he re-composed it to accommodate a full orchestra and female chorus. The result is a stylistic work of art, which is recognized as a modern classic. This third and final version appears in the earlier CD recording entitled “Siang Tian”

เพลง เงาในน้ำ ขับร้องเดียว (Ngao Nai Nam with voice)

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้ประพันธ์คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ

เพลงเงาในน้ำเป็นผลงานที่ได้รับการชื่นชอบอย่างมาก ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ประพันธ์ไว้สำหรับการแสดงโดยคณะผกาวลี เรื่อง "มนต์นาคราช" (บทละครโดย กุมุท จันทร์เรือง) มีเนื้อร้องบรรยายเกี่ยวกับนางเอกที่เห็นเงาตัวเองในน้ำเป็นครั้งแรก นับว่าเป็นบทเพลงที่มีทำนอง (Melody) อ่อนหวานและไพเราะ มีความกลมกลืนกัน (Harmony) อย่างสมบูรณ์


Ngao Nai Nam with voice
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng
Vocalist: Jairat Pitakcharoen

These works were first composed and arranged by Prasidh for a stage orchestra limited to fourteen instuments. For the present recording, the works have been performed by a medium-sized symphony orchestra which lent full-bodied sound to the pieces.

เพลง โสมสวาท ขับร้องเดี่ยว (Soam Sa-Wat with voice)

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้ประพันธ์คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ

เพลงโสมสวาทเป็นเพลงเอกในละครเรื่อง "แผ่นดินแห่งความฝัน" (บทละครโดย สด กูรมะโรหิต) แสดงโดยคณะผกาวลี


Soam Sa-wat with voice
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng
Vocalist: Jairat Pitakcharoen

These works were first composed and arranged by Prasidh for a stage orchestra limited to fourteen instuments. For the present recording, the works have been performed by a medium-sized symphony orchestra which lent full-bodied sound to the pieces.

เพลง ยามรัก ขับร้องเดี่ยว (Yarm Ruk with voice)

ผู้ประพันธ์ : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน : ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
ผู้ประพันธ์คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ

ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ประพันธ์เพลงยามรักไว้สำหรับเป็นเพลงเอกในละครเรื่อง ซิสก้า (บทละครโดย สด กูรมะโรหิต) ซึ่งแสดงโดยคณะผกาวลี ยามรักเป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่ได้รับการชื่นชอบอย่างมากจากผู้ที่ชมละครเรื่อง ซิสก้า


Yarm Ruk with voice
Composed by Prasidh Silapabanleng
Arranged and Orchestrated by Prasidh Silapabanleng
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng
Vocalist: Jairat Pitakcharoen

These works were first composed and arranged by Prasidh for a stage orchestra limited to fourteen instuments. For the present recording, the works have been performed by a medium-sized symphony orchestra which lent full-bodied sound to the pieces.

อัลบั้มสายสัมพันธ์ (Sai Sumphan Album)

บทประพันธ์เพลง “สายสัมพันธ์” เป็นบทเพลงที่ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และภริยาคู่ชีวิต ลัดดา สารตายน ศิลปบรรเลง ผู้แต่งคำร้องชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ด้วยว่าทำนองและคำร้องมีความหมายหวานซึ้งสะท้อนความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่มีต่อกันอย่างแนบแน่นจริงใจตลอดชั่วชีวิตรักและชีวิตสมรสอันยืนนานกว่า 57 ปี ของท่านทั้งสอง ดังนั้น เพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงความผูกพันอย่างลึกซึ้งที่ท่านทั้งสองมีต่อกัน จึงจัดทำอัลบั้มชุดนี้ขึ้นให้ชื่อว่า ชุด “สายสัมพันธ์” เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักและผูกพัน

อัลบั้ม “สายสัมพันธ์” เป็นผลงานการประพันธ์ของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง สำหรับการแสดงละครเวที โดยคณะผกาวลี เรื่องต่างๆ ในช่วง พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๓ ทุกบทเพลงเป็นการขับร้องเดี่ยว หรือขับร้องคู่ โดยตัวละครเอกในบทละครเรื่องนั้นๆ ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง ได้ประพันธ์และเรียบเรียงเสียงประสานทุกเพลงแต่มีบางเพลง ที่ได้ประพันธ์ไว้นานมากแล้ว และมิได้นำมาบรรเลงบ่อยนัก จึงมี Score ไม่ครบถ้วน อัปสร กูรมะโรหิต ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนสุดท้ายในช่วงชีวิตของท่าน ได้ช่วยปรับปรุงเรียบเรียงเสียงประสานจากต้นฉบับเท่าที่จะหาพบได้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลงานที่ อัปสร กูรมะโรหิต เรียบเรียงเสียงประสานขึ้นใหม่ เป็นส่วนของการศึกษาวิชาการประพันธ์เพลงที่เรียนกับอาจารย์ประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง เพลงส่วนนี้ได้แก่เพลง อยากจะลืม, มิ่งขวัญคู่ฟ้า, เห็นใจสักครั้ง และเพลงหวานรื่น รวม ๔ เพลงด้วยกัน

อัลบั้มชุด “สายสัมพันธ์” นี้ จัดทำเป็นแผ่น CD เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๘ ที่เมือง RIGA ประเทศ LATVIA บรรเลงโดยนักดนตรีชาวลัตเวีย โดยวงดุริยางค์ The Latvian National Symphony Orchestra โดย Mr.Terje Mikkelsen ชาวนอร์เวย์เป็นวาทยกร

ผู้ขับร้องเพลงในชุด สายสัมพันธ์ คือ ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ (ขับร้องเสียงโซปราโน) และ กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา (ขับร้องเสียง บาริโทน)

  • วงดุริยางค์ : The Latvian National Symphony Orchestra
  • ผู้อำนวยเพลง : Terje Mikkelsen
  • ผู้บันทึกเสียงและผสมเสียง : Karlis Pinnis และ Vilnis Kaksis
  • สถานที่บันทึกเสียง : Riga Recording Studio, เมืองริก้า ประเทศลัตเวีย
  • ผู้ขับร้อง : ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ และ กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา
  • ผู้อำนวยการผลิต : ดร.กุลธร ศิลปบรรเลง บุตรของประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง และหลานของหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
  • ผู้ประสานงาน : อรปรียา ศิลปบรรเลง และ ยศธร ศิลปบรรเลง
  • ขอขอบคุณ : ลัดดา ศิลปบรรเลง, ยาหยีศรีเฉลิม ศิลปบรรเลง, วัลย์ลดา หงส์ทอง, มธุสร วิสุทธกุล, ไกวัล กุลวัฒโนทัย, ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ, กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา, Hazel and Bjorn Henriksen, รังสิ ถาวรังกุร
  • ขอขอบคุณเป็นพิเศษ : อัปสร กูรมะโรหิต ผู้จัดเตรียมสกอร์ของทุกเพลงในการบันทึกเสียง

To mark the love and affection that Prasidh and Ladda had shared warmly together for over 57 years, this album is thus named “Sai Sumphun”, meaning “bond of warm affection”.

Prasidh Silapabanleng composed and orchestrated most of the 31 songs recorded in this album. Except for some 4 songs where Apsorn Kurmarohita, the last and fond pupil of Prasidh has helped by completing the missing parts of the scores or rearranging or rearranging whole songs as well as orchestrating a song given as an exercise to her by Prasidh. These songs are “Yark Ja Leum”, “Ming Kwan Ku Fah”, “Henjai Suk Krung” and “Waan Ruen”.

  • The Latvvian National Symphony Orchestra conducted by Terje Mikkelsen.
  • Vocalist Jairat Pitakchroen and Korawij Devahastin
  • This recording took place in June 2005 at the Riga Recording studio, Riga, Latvia.
  • Recorded Producer : Kalis Pinnis, Vilnis Kaksis
  • Excutive Producer : Dr.Kulthorn Silapabanleng (Son of Prasidh Silapabanlenf and Grandson of Luang Praditpairoh)
  • Coordinators : Orpriya Silapabanleng, Yosathorn Silapabanleng
  • Thanks to : Ladda Silapabanleng, Yahysrichalerm Silapabanleng, Valyalada Hongstong, Mathurose Visuthakul, Kaiwal Kulwathanothai, Jairat Pitakchroen, Korwij Devahastin, Bjorn and Hazel Henrikson, Rungsi Thavarungkul.
  • Special Thanks to : Apsorn Kurmarohita, for her time and effort spent in the preparation of scores and parts of all songs in this recording

เพลง สายสัมพันธ์ (Sai Sumphun)

สายสัมพันธ์ (บทร้องของพระเอกและนางเอก)
คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

จากละคร เรื่อง “เวียงฟ้า” (โรงละครเฉลิมนคร)
ผู้ประพันธ์บทละคร : อิงอร (ศักดิ์เกษม หุตาคม)
ผู้กำกับการแสดง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้แสดงนำชาย : ทัต เอกทัต
ผู้แสดงนำหญิง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

(ช) โอ้รัก ฤาจักคลาย (ญ) โอ้รักฤาจักคลาย
(ช) โอ้สายสัมพันธ์มั่นหทัย (ญ) รักไม่ลืมอยู่เพียงดวงใจ
(ช) พี่ขอฝากไว้แด่น้องนางเดียว ชีวิตร่วมรมย์กลมเกลียว
(ญ) รักแท้แต่เธอคนเดียว อย่าเฉลียวความรักจักคลาย
(ช) ตราบแผ่นผา เอนแยก แหลกสลาย
(ญ) ตราบดินฟ้า นที เป็นภัสมธุลี มอดมลาย
(ญ) รักสองเรา (ช) รักสองเรา
(ญ) ไม่เหือดหาย (ช) ไม่เหือดหาย
(พร้อมกัน) รวมชีพรวมใจ คงรักไม่คลาย สุดใจนั้นคือเธอ


From the Play: Wieng Fah
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng

เพลง ความสุข (Kwam Sook)

ความสุข (เดิมชื่อเพลง ธรณีครวญ เป็นบทร้องของระบำนางไม้)
คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

จากละคร เรื่อง "เวียงฟ้า" (โรงละครเฉลิมนคร)
ผู้ประพันธ์บทละคร : อิงอร (ศักดิ์เกษม หุตาคม)
ผู้กำกับการแสดง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้แสดงนำชาย : ทัต เอกทัต
ผู้แสดงนำหญิง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

เลื่อมพรายแสงรุ่งแรงแสงวับวาม
เลื่อนลอยอยู่ตามสุมทุมงามเรืองรอง
ถาบถา ร่อนรา เนตรนอง
ร่ำร้องคร่ำครวญ โอ้จวนถึงโชคกรรม
เคยอยู่ร่มเย็น มาเกิดเป็นทุกข์กระทำ
แสนเทวษแสนระกำได้แต่พร่ำพร้องไป


From the Play: Wieng Fah
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng

เพลง ดวงใจ (Duang Jai)

ดวงใจ (บทร้องของพระเอกและนางเอก)
คำร้อง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

จากละคร เรื่อง "เกียรติศักดิ์รักของข้า" (โรงละครกรมศิลปากร)
ผู้ประพันธ์บทละคร : มาลัย ชูพินิจ
ผู้กำกับการแสดง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง
ผู้แสดงนำชาย : ประเทือง สายะพันธุ์
ผู้แสดงนำหญิง : ลัดดา (สารตายน) ศิลปบรรเลง

(ช) ดวงใจ สุดแสนรักอาลัย สุดแสนรักอาลัย มอบฤทัยดวงเดียวแต่เธอ
(ญ) ดวงใจ สุดแสนรักอาลัย สุดแสนรักอาลัย มอบฤทัยดวงเดียวแต่เธอ
(ช) อกข้าตรอมตรมด้วยอาจเอื้อมชม ดอกฟ้าลอยลม หลงละเมอ
(ญ) โอ้ความรักนี้ละห้อยเฝ้าคอยหา วาสนา พบรักแท้ แค่ขื่นขม
นี่เป็นบุญหรือกรรมนำอารมณ์ ให้นิยม รักเธอ รัดเสมอด้วยดวงใจ
(ช) ดวงใจ สุดแสนรักอาลัย สุดแสนรักอาลัย มอบฤทัยดวงเดียวแต่เธอ
(ญ) ดวงใจ สุดแสนรักอาลัย สุดแสนรักอาลัย มอบฤทัยดวงเดียวแต่เธอ
(ช) อกข้า ตรอมตรม ด้วยอาจเอื้อมชม ดอกฟ้าลอยลม หลงละเมอ
(ญ) รักจริง แต่จะทิ้งไปไกล (ช) แม้มลาย ผูกพันรักไม่คลาย
(ญ) รักแล้วอย่ากลับกลายเป็นอื่น
(ญ) จะเฝ้าคอย (ช) จะเฝ้าคอย (พร้อมกัน) นับวันคืนกลับมา


From the Play: Kiattisuk Ruk Khongkha
Lyrics by Ladda Saratayon Silapabanleng

Results 941 to 960 of 3590